บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2017

ปราสาทบ้านบุ

รูปภาพ
ปราสาทบ้านบุ ประเทศไทยของเรานั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมายโดยกระจายตัวกันอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ และสำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสานของเรานั้นก็มีความสวยงามและมีแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามมากมายไม่แพ้ภูมิภาคอื่นๆ โดยอย่างที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั้นก็ถือว่าเป็นอีกจังหวัดที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ที่นี่ก็มีที่เที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีความน่าสนใจอยู่หลายแห่งด้วยกันอย่างที่  ปราสาทบ้านบุ  ก็นับว่าเป็นอีกจุดท่องเที่ยวที่ใครมาเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์แล้วไม่ควรพลาดแวะมาเที่ยวชมกันซักคร บุรีรัมย์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองเเห่งปราสาทหินเเละมีปราสาทหินมากมายหลายเเห่งที่สวยงามพร้อมกับเป็นเส้นทางในการสัญจรมาตั้งเเต่โบราณจากเมืองพระนครหลวง หรือ ปราสาทนครวัดนั้นเอง โดยอย่าง ปราสาทบ้านบุ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามเเละอยู่บนเส้นทางเเห่งนี้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอีกเเห่งของจังหวัดบุรีรัมย์ไปเเล้ว โดยมันตั้งอยู่ที่อำเภอประโคนชัย ในจังหวัดบุรีรัมย์ นับว่าเป็นอีกเเหล่งท่องเที่ยวที่น่า...

ปราสาทหนองปล่อง

รูปภาพ
  ปราสาทหนองปล่อง   ปราสาทหนองปล่อง ( Prasat Nong Plong)  ตั้งอยู่ที่บ้านหนองยาง หมู่  5  ตำบลหนองยายพิมพ์ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ปราสาทวหนิคฤหะหนองปล่อง ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าชุมชนของบ้านหนองยางและบ้านหนองปล่อง มีลำนางรองไหลผ่าน ห่างออกไปทางทิศตะวันตกประมาณ  1  กิโลเมตร ไม่มีเมืองโบราณอยู่ใกล้เคียงนอกจากโคกเนินใกล้เคียงทางทิศใต้และตะวันออก ที่เล่ากันว่าเคยเป็นที่ตั้งของชุมชนในวัฒนธรรมเขมรในยุคร่วมสมัย มีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กทางทิศใต้ เป็นปราสาทแบบวหนิคฤหะหรือธรรมศาลาที่ใช้วัสดุ หินศิลาแลง ( Laterite)  เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง และใช้หินทรายสีเทา ( Gray Sandstone)  เป็นส่วนประกอบโครงสร้างบริเวณกรอบหน้าต่าง กรอบประตู หน้าบันและประติมากรรมประดับปราสาท หลังคาและตัวปราสาทหนองปล่องพังทลายลงมาเป็นกองหิน คงเหลือส่วนของผนังมุขทางด้านทิศเหนือที่ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่เพียงเล็กน้อย ชิ้นส่วนหินแท่งใหญ่ ที่เคยเป็นส่วนประกอบโครงสร้างรับน้ำหนัก กระจัดกระจายอยู่รอบบริเวณ หินศิลาแลงโครงสร้างปราสาทบางส่วนได้ถูกนำมาเรียงเป็นแนวกำแพงด้านทิศเห...

ปราสาทละลมทม

รูปภาพ
  ปราสาทละลมทม   ปราสาทละลมทม เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู จากการเดินสำรวจ พบว่า เป็นปราสาทที่มีโคปุระครบทั้๔ ด้าน แต่ มีซุ้มประตูโคปุระที่เข้าออกได้จริง ทั้งหมด ๒ ด้าน  คือ ด้านทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตก ของปราสาท ปราสาทมีขนาดความกว้างยาว และ ความสูงของปราสาทประธาน มีขนาดใกล้เคียงกับ ปราสาทสด๊กก๊อกธม จึงกำหนดอายุปราสาทในราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๖ เป็นศิลปะแบบปาปวนตอนต้น อนึ่ง  ปราสาทละลมทม  นี้ อยู่ไม่ห่างจากลำน้ำชี ซึ่ง เป็นรอยต่อระหว่างอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ คำว่า"ละลม" นั้นปรากฎในภาษาถิ่นโคราช หมายถึง ลำน้ำสาขาย่อยที่แยกย่อยออก จาก แม่น้ำใหญ่ ส่วน คำว่า"ทม" หรือ "ธม" เป็นคำไทยที่ยืมมาจากภาษาเขมร  แปลว่าใหญ่  ปราสาทละลมทม  ตั้งอยู่ บริเวณบ้านศรีสุข ตำบลเขาดินเหนือ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ อนึ่งถ้ามีการขุดแต่งปราสาทหลังนี้ อย่างจริงจัง จึงจะรู้ยุคสมัยที่แท้ของปราสาทอย่างละเอียด ซึ่งต้องใช้งบประมาณอย่างมหาศาล และ ถ้าบูรณะแล้ว จะกลายเป็น "มณีรัตนชาติ" เม็ดงาม อีกแห่งของประเทศไทย ในอนาคต ที่มา  htt...

ปราสาทแก้ว หรือ ปราสาทพระปืด

รูปภาพ
ปราสาทแก้ว  หรือ ปราสาทพระปืด ตั้งอยู่บ้านพระปืด ต.แร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์    ภายในวัดมีปราสาทแก้ว    ตั้งอยู่ภายในเมืองโบราณ หรือชุมชนโบราณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามุมมน ด้านทิศตะวันออกมีกำแพงดิน  3  ชั้น    และคูน้ำ  2  ชั้นล้อมรอบ    ปราสาทแก้วเป็นวิหารเก่าแก่สร้างด้วยอิฐสอดิน    มีศิลาแลงประกอบ    เรือนธาตุคล้ายคลึงกับปราสาทเมืองทีและปราสาทแสรออ    แต่มีผนังเรือนธาตุด้านทิศตะวันออกเจาะเป็นซุ้มเพื่อประดิษฐาน พระปืด ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดง    ขัดสมาธิเพชร    พระเศียรเดิมหายไปและสร้างพระเศียรต่อขึ้นใหม่ภายหลัง    ภายในวิหารยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งคือ พระเสี่ยงทาย    ปางสมาธิราบ    พระเศียรทรงเทริด    มีรัศมีเป็นรูปกลีบบัวหงาย    มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่  24  หรือราวสมัยอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น   (คณะกรร มการฝ่ายประมวล เอกสารและจดหม...

ปราสาทนางบัวตูม

รูปภาพ
ปราสาทนางบัวตูม  เป็นที่อยู่อาศัยของฤาษีตนหนึ่ง วันหนึ่งฤาษีได้เก็บทารกได้คนหนึ่ง นอนอยู่ในดอกบัว ฤาษีจึงนำมาเลี้ยงไว้ และให้ชื่อว่านางบัวตูม นางบัวตูมเติบใหญ่ โตเป็นสาว จึงได้เด็ดดอกลำดวนมาเสี่ยงทายลอยไปตามน้ำเพื่อหาคู่ครอง ท้าวโสวัฒน์เป็นผู้เก็บดอกไม้ของนางได้ จึงได้ขี่ม้าออกตามหานาง และพบรักกันในที่สุด ต่อมาท้าวโสวัฒน์จะพานางบัวตูมกลับไปเยี่ยมเมืองพิมาย บ้านเมืองของพระองค์ จึงขอลาฤาษีกลับไป ขณะเดินทางกลับทั้งสองได้พบพรานเจตบุตร พรานเจตบุตรเห็นนางบัวตูม เกิดหลงรักในความงามของนาง จึงฆ่าท้าวโสวัฒน์ และได้นางบัวตูมมาเป็นภรรยา เมื่อพรานเจตบุตรเผลอ  ปราสาทนางบัวตูม    ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่วัดปทุมศิลาวารีปราสาท บ้านปราสาท หมู่ที่ 5 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นปราสาทก่อด้วยศิลาแลง 3 หลัง  และตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเดียวกัน  เรียงกันในแนวเหนือ-ใต้  มีบันไดทางขึ้นด้านทิศตะวันออก  และมีประตูหลอกอีก 3 ด้าน  ทำด้วยหินทราย เสาประดับกรอบประตูไม่สลักลวดลาย  ส่วนที่ประตูทางเข้าสลักรูปดอกบัวอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัส  เสา...

ปราสาทขุมดิน

รูปภาพ
ปราสาทขุมดิน ณ บ้านขุมดิน เมื่อประมาณหนึ่งร้อยปีเศษ เมื่อครั้งอดีตผ่านมา มีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงไม่กี่หลังคาเรือน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เช่นเดียวกับหมู่บ้านชนบททั่วๆ ไปของภาคอิสานที่ห่างไกลความเจริญ การคมนาคมไปมาหาสู่กัน ใช้การเดินเท้าเป็นหลัก ยานพาหนะที่ใช้ คือ เกวียนเทียมวัว , ม้า แสงสว่างยามค่ำคืนมีกระบองจุดกันวอมแวม ข้าวก็ปลูกไว้แต่พอใส่ครกตำหุงกิน แหล่งอาหารก็หาจากป่าธรรมชาติข้างบ้านซึ่งมีอยู่มากมาย ไม่เดือดร้อน ได้แก่ กบ เขียด กุ้ง หอย ปู ปลา ผักชนิดต่างๆ หาได้มากก็แบ่งปันกันกับเพื่อนบ้าน เรียกได้ว่าอยู่กันแบบพอมีพอกิน บ้านขุมดิน เดิมขึ้นอยู่กับตำบลเบิด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ คำว่า " ขุมดิน " หมายถึง " หลุมดิน " เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้าน " บ้านขุมดิน " ถัดไปจากหมู่บ้านด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พบโบราณสถาน ที่อยู่ในสภาพปรักหักพังอยูีในป่าไม่ห่างจากหมู่บ้านนัก ชาวบ้านเชื่อและศรัทธาใรความศักดิ์สิทธิ์ ไม่กล้าที่จะเข้าไปแตะต้อง ผู้เฒ่าผู่แก่บ้านขุมดินเล่าว่า... บางเพลาพลบค่ำได้ยินเสียงฆ้องโหม่งดังจากมาโบราณสถานปราสาทขุมดินแห่งนี้ หากช่วงนี้ใครเดินผ่า...

ปราสาทสังข์ศิลป์ชัย

รูปภาพ
ปราสาทสังข์ศิลป์ชัย   ปราสาทสังข์ศิลป์ชัย  หรือปราสาทบ้านจารย์ มีลักษณะเป็น ปราสาท องค์เดียวหลังค่อนข้างใหญ่ แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมสิบสอง ตั้งอยู่บนฐานสูง ปัจจุบันหักพัง หลังคาทลายลงมาเหลือผนังบางส่วนและกรอบประตูด้านทิศตะวันออก สิ่งสำคัญของปราสาทหลังนี้คือ ทับหลังที่พบบริเวณด้านหน้า มีขนาดใหญ่กว่าที่พบทั่วไป คือ ขนาดยาว 2.70 เมตร สูง 1.10 เมตร และหนา 0.85 เมตร ตรงกลางสลักเป็นภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณท่าร่ายรำ พนมมือประกอบ แนวทับหลังตอนบนป็นภาพเทพพนมในซุ้มเรือนแก้ว 10 ซุ้ม เรียงกัน นอกจากนี้ ยังพบเสาประดับกรอบประตูแปดเหลี่ยม จำหลักรูปฤษีนั่งอยู่ภายในซุ้มบริเวณโคนเสาด้วย [1] ที่มาhttps://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B9%8C%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2_(%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C)

ปราสาททนง

รูปภาพ
ปราสาททนง  ปราสาททนง ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาททนง ตำบลปราสาททนง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยปราสาททนง เป็นปราสาทที่มีลักษณะเป็น อาคารขนาดใหญ่ ก่อสร้างด้วยอิฐปนหินทรายและศิลาแลง จำนวน 2 กลุ่ม ตั้งเรียงกันหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามลำดับ คือ พลับพลา และปราสาทประธาน       พลับพลา ตั้งอยู่หน้าปราสาทประธาน มีสภาพชำรุดเหลือเพียงฐานบัวก่อด้วยศิลาแลง มีบันไดทางขึ้น-ลง 10 บันได ปราสาทประธาน ตั้งอยู่บนฐานปีกกาก่อด้วยศิลาแลง ทำให้สูงกว่าพลับพลา       ซึ่งปัจจุบันสภาพปราสาทประธานชำรุดมาก ประกอบด้วยอาคารสำคัญ 3 หลัง คือ ปราสาทประธานสำหรับประดิษฐานเทวรูปและมีบรรณาลัยหรือวิหาร 2 หลัง และที่สำคัญคือ พบทับหลังหินทรายแบบศิลปะเขมรสมัยบาปวน (ราวกลางพุทธศตวรรษที่ 16 ต้นพุทธศตวรรษที่ 17) จำนวนหลายชิ้น  ข้อมูลโดย :  องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ที่มา http://travel.thaiza.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8...

ปราสาทตาวาย

รูปภาพ
 ปราสาทตาวาย   เมื่อช่วงเช้าตรู่ ของวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมานั้น ทางทหารกัมพูชา ได้เปิดฉากยิงปะทะกับทหารไทย ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม  และปราสาทตาควาย  ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหนองคันนา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มาจนถึงวันนี้ (26 เมษายน) การปะทะระหว่างทหารไทย และทหารกัมพูชาที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ก็ยังมีอยู่เป็นระยะ ๆ  อย่างไรก็ตาม พอเอ่ยชื่อ ปราสาทตาควาย หลายคนอาจจะสงสัยว่า ปราสาทตาควาย ตั้งอยู่ในจุดไหนของชายแดนไทย-กัมพูชา วันนื้ ทีมงานกระปุกขอพาทุก ๆ ท่านไปทำความรู้จักกับ ปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ของการปะทะครั้งนี้            ปราสาทตาวาย (ปราสาทตาควาย) หรือ  "ปราสาทตากระเบย"  (ในภาษาเขมร กระเบย/กรอเบย หมายถึง ควาย)  ตั้งอยู่บนสันเขาห่างจากหน้าผา สูงประมาณ 10 เมตร ของเทือกเขาพนมดงรัก ที่บริเวณช่องตาควาย ในเขตบ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์   โดยปราสาท ตาควายเป็นปราสาทหินศิลาแลง  หันหน้าไปทางทิศตะวันออก    สำหรับผัง...

ปราสาทหินพนมสวาย

รูปภาพ
ปราสาทหินพนมสวาย ตั้งอยู่ที่ตำบลนาบัว อำเภอเมือง ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 22 กิโลเมตร ใช้เส้นทางสุรินทร์-ปราสาท (ทางหลวงหมายเลช 214) ระยะทาง 14 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นภูเขาเตี้ย ๆ มียอดเขาอยู่ 3 ยอด ยอดที่ 1 มีชื่อว่ายอดเขาชาย (พนมเปราะ) สูง 210 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมสวาย มีบันไดก่ออิฐถือปูนขึ้นถึงวัด ระหว่างทางเรียงรายไปด้วยระฆังจำนวน 1,080 ใบให้ผู้มาเยือนเคาะเพื่อความเป็นสิริมงคล มีสระน้ำกว้างใหญ่และร่มรื่นด้วยต้นไม้ บนเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคล เป็นพระพุทธรูปสีขาว ปางประทานพร ภปร. ขนาดหน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 21.50 เมตร มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุที่บริเวณพระนาภี ยอดที่ 2 มีชื่อว่ายอดเขาหญิง (พนมสรัย) สูงระดับ 228 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลาราม ทางวัดได้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์ขนาดกลางประดิษฐานบนยอดเขา และยังมี "สระน้ำโบราณ" 2 สระที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของ เต่าศักดิ์สิทธิ์ ยอดที่ 3 มีชื่อว่าเขาคอก (พนมกรอล) พุทธสมาคมจังหวัดสุรินทร์ได้จัดสร้างศาลาอัฏฐะมุข เป็นอนุสรณ์ฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เพื่อ...

ปราสาทเมืองไผ่

รูปภาพ
ปราสาทเมืองไผ่     ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองไผ่ อำเภออรัญประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือ เจดีย์โบราณสร้างด้วยอิฐก่อทับกัน เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีมุขยื่นออกมา 4 มุม แกะสลักลวดลายดอกไม้ ลายเครือวัลย์ และรูปคน      สันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์สมัยทวาราวดี นอกจากนี้ยังพบศิลปวัตถุหลายอย่าง เช่น เสมาธรรมจักร ทำด้วยศิลาเขียว เทวรูปศิลปลพบุรี และพระพุทธรูปศิลปทวาราวดี ซึ่งโบราณวัตถุเหล่านี้ ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร การเดินทางไปปราสาทเมืองไผ่นั้น ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดิน อรัญประเทศ-ปราจีนบุรี ถึงตำบลเมืองไผ่ ต่อจากนั้นต้องเดินเท้า เข้าไปถึงปราสาทเมืองไผ่ รวมระยะทางประมาณ 15 กม. การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดิน อรัญประเทศ –ปราจีนบุรี ถึงตำบลเมืองไผ่ ต่อจากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปถึงปราสาทเมืองไผ่ รวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำนักงานจังหวัดสระแก้ว ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ตำบล ท่าเกษม อำเภอ เมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว 27000 โทรศัพท์ 0-3742-5126 ที่มา  http://www.addsiam.com/

ปราสาทเขาโล้น

รูปภาพ
  ปราสาทเขาโล้น ปราสาทเขาโล้น ตั้งอยู่ที่บ้านเจริญสุข ตำบลทัพราช เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาโล้นในบริเวณวัดปราสาทเขาโล้น ซึ่งเป็นยอดเขาเตี้ยๆ อยู่บนเชิงเขาสะแกกรอง มีปรางค์ 4 หลัง เหลืออยู่เฉพาะหลังกลาง ส่วนปราสาทด้านหน้า 2 หลัง และด้านหลัง 1 หลัง ได้ปรักหักพังไปแล้ว ลักษณะปราสาทคล้ายกับปราสาทเขาน้อย ก่อด้วยอิฐเผามีหินทรายเป็นพื้นฐาน มีส่วนชำรุดที่ยอดของปราสาท ที่กรอบประตูหินทรายมีจารึกอักษรโบราณ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวปราสาทมีสระน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง และมีแนวถนนโบราณทอดยาวจากตัวปราสาทถึงสระน้ำ รอบภูเขาลูกนี้มีร่องรอยเป็นหมู่บ้าน หรือชุมชนโบราณในอดีต การเดินทาง ปราสาทเขาโล้นสามารถใช้เส้นทางหมายเลข 3068 (เส้นตาพระยา-บุรีรัมย์) แล้วเลี้ยวซ้ายทางไปบ้านเจริญสุขจนถึงเชิงเขาที่ตั้งปราสาท ระยะทางจากอำเภอตาพระยาถึงปราสาทเขาโล้นประมาณ 28 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 3486 กิโลเมตรที่ 15-16 สถานที่ตั้ง:  บ้านเจริญสุข ตำบลทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

ปราสาทวัดหน้าพระธาตุ

รูปภาพ
ปราสาทวัดหน้าพระธาตุ อำเภอเมือง จ.สิงห์บุรี อยู่ในเขตบ้านพระนอนจักรสีห์ ตำบลจักรสีห์ ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์ไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกวัดนี้ ว่าวัดหัวเมือง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น วัดหน้าพระธาตุ สันนิษฐานว่า สถานที่ บริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของเมืองสิงห์บุรีเก่า สิ่งที่สำคัญของวัดนี้ คือ องค์พระปรางค์สูงประมาณ 8 วา ทำเป็นรูปครุฑอสูรถือกระบองประดับ อยู่เหนือชั้นเชิงบาตร ภายหลังมีการเสริมแต่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะอยุธยาตอนต้น โดยการก่ออิฐเพิ่มเติมเป็นซุ้มจรนัมทั้งสี่ด้าน ตั้งแต่ฐานศิลาแลงขึ้นไปก่อด้วยอิฐ ย่อมุมทรงปรางค์ กลีบขนุนปรางค์ก่อด้วยอิฐ ทิศตะวันออกขององค์ปรางค์มีพระวิหารหลวง ทิศตะวันตกเป็นพระอุโบสถ และมีเจดีย์กลมเรียงรายหลายองค์ เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมแบบสมัยอยุธยาตอนปลาย กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478  บริเวณหน้าทางเข้าประดิษฐานหลวงพ่อทันใจซึ่ง กำลังอยู่ในระหว่าง ก่อสร้างพระอุโบสถ  การเดินทาง  วัดหน้าพระธาตุอยู่ในเขตบ้านพระนอนจักรสีห์ ตำบลจักรสีห์ ห่างจากวัดพระนอนจักรสีห์ไปประมาณ 1.5 ก...

ปราสาทกู่พระสันตรัตร์

รูปภาพ
   ปราสาทกู่พระสันตรัตร์            กู่สันตรัตน์ตั้งอยู่ที่ตำบลกู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอนาดูน  ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 4 กิโลเมตร สร้างด้วยศิลาแลงเป็นศิลปะขอมแบบ บายน มีรูปลักษณะปราสาทหินที่มีปรางค์ประธานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัตมีมุขด้านหน้ายื่นไปทางทิศตะวันออก  มีบรรณาลัยซึ่งเป็นที่เก็บคัมภีร์ทางศาสนาตั้งอยู่ทางทิศตะวันนออกเฉียงใต้หันหน้าเข้าหาปรางค์ประธาน อาคารทั้ง 2 ล้อมด้วยกำแพงศิลาแลงซึ่งสร้างยังไม่เสร็จเรียบร้อยอีกชั้นหนึ่ง กู่สันตรัตน์สร้างขึ้นมาด้วยมีวัตถุประสงค์เพื่อประดิษฐานรูปเคารพสำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นโรคยาศาล คือเป็นที่พักรักษาพยาบาลคนเจ็บป่วยอีกด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเคยเสด็จทอดพระเนตร และทรงเยี่ยมราษฎรที่กู่สันตรัตน์แห่งนี้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ.2514 ความเป็นมา:            กู่สันตรัตน์เป็นโบราณสถานที่มีลักษณะแบบขอม เป็นสถานที่ ที่เรียกว่าอโร...

ปราสาทดงเมืองเตย

รูปภาพ
ปราสาทดงเมืองเตย   เป็นเมืองเก่าสมัยขอมจะเป็นเมืองร้างมาแล้วนานเท่าไรไม่ทราบได้ สภาพที่เห็นมาจากปู่ย่าตาทวดหลายชั่วอายุคน ดงเมืองเตยมีป่าไม้ขึ้นสูงข้างล่างโปร่ง มีหมู่ไม้เล็กๆ ขึ้นบ้าง ต้นไม้ใหญ่ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะแบก ไม้ยางเหียง เป็นป่าหนาแน่นมาก พวกพ่อแม่ปู่ย่าตายายไม่กล้าตัดต้นไม้ในดงนี้ เพราะดงเมืองเตยมีผีดุเรียกว่า ผีปู่ตา ป่าไม้จึงเป็นที่อาศัยของลิง และนกหลายจำพวก บึงรอบบริเวณดงเมืองเตยเป็นหนองน้ำขนาดลึกมีน้ำขังตลอดปี เป็นที่อาศัยและเป็นที่เพาะพันธุ์ปลาตามธรรมชาติ นอกจากนกจำพวกต่างๆ แล้วบึงนี้ได้ชื่อว่ามีเต่ามากที่สุด เหตุที่มีเต่ามากเช่นนี้ชาวบ้านนับถือผีปู่ตา ปู่ตาห้ามจับกินทำลายสัตว์พาหนะของท่าน คือ ลิงและเต่า ถ้าเกิดทำอันตรายขึ้นมา จะต้องมีอันเป็นไป” “ต่อมาเมื่อประมาณ 90 ปีมาแล้ว ชาวบ้านสงเปือยมีหมอร่ำเรียนวิชาอาคมมาทำพิธีปราบผีดงเมืองเตยได้ หมอผู้มีวิชาอาคมผู้นี้ชื่อ ผู้ใหญ่สุวอ เหตุการณ์นี้ตรงกับสมัยพ่อใหญ่อัครฮาด เป็นตาแสง เมื่อชาวบ้านใกล้ไกลได้ยินข่าวพ่อใหญ่สุวอข่มผีดงเมืองเตยได้แล้ว ก็พากันหลั่งไหลมาจับเต่าปลาดงเมืองเตยไปเป็นอาหารจนเกือบเกลี้ยงบึง เต่าจึ...

ปราสาทเปือยน้อย

รูปภาพ
ปราสาทเปือยน้อย หรือ พระธาตุกู่ทอง ถึงแม้จะเป็นปราสาทหินที่มีขนาดไม่ใหญ่ เท่ากับปราสาทหินพิมาย หรืออีกหลายแห่งที่พบทางอีสานตอนใต้ แต่ก็นับเป็นปราสาทเขมร ที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่ง ปราสาทเปือยน้อย หรือ ชาวบ้านเรียกว่า พระธาตุกู่ทอง สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ เป็นศิลปะผสมระหว่างศิลปะเขมร แบบบาปวน และแบบนครวัด สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู แผนผังการก่อสร้างมีความหมาย เป็นเขาพระสุเมรุ ซึ่งถือเป็นแกนจักรวาล อันเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าที่เรียกว่า “ศาสนบรรพต” สิ่งก่อสร้างภายในบริเวณปราสาท เป็นไปตามแบบแผนของศาสนสถานขอมโบราณ หน้าบันขององค์ปรางค์ประธานสลักเป็นพระยานาคราชมีลวดลายสวยงามมาก ทับหลังสลักเป็นรูปนารายณ์บรรทมสินธุ์ ที่นับว่ายังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ "โคปุระ" (ซุ้มประตู) อยู่ทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ด้านข้างโคปุระเจาะเป็นช่องหน้าต่าง "กำแพงแก้ว" มีฐานเป็นบัวคว่ำบัวหงาย มีการสลักศิลาแลงเป็นร่องแบบลาดบัว การเดินทาง จากขอนแก่นใช้ทางหลวงหมายเลข ๒ (ขอนแก่น-บ้านไผ่) ระยะทาง ๔๔ กิโลเมตร เข้าทางหลวงหมายเลข ๒๓ (บ้านไผ่-บรบือ) ไปอีกประมาณ ๑๑ กิโลเมตร ...

ปราสาทเมืองสิงห์

รูปภาพ
                                                                    ปราสาทเมืองสิงห์ ปราสาทเมืองสิงห์  มีจุดมุ่งหมายสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายานจากการขุดตกแต่งของกรมศิลปากรที่ค่อยบูรณะไป ตั้งแต่พ.ศ. 2478แต่มาเริ่มบุกเบิกกันจริงจังเมื่อพ.ศ. 2517 แล้วเสร็จเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2530 จึงสวยงามดังที่เห็นอยู่ในวันนี้ ปราสาทเมืองสิงห์นี้กล่าวว่าสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7(พ.ศ. 1720 - 1780) กษัตริย์นักสร้างปราสาท แห่งขอม จากการขุดแต่งของกรมศิลปากร พบศิลปกรรมที่ สำคัญยิ่งคือพระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรและนางปรัชญาปารมิตาและ ยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่ง รัศมีอีกองค์หนึ่ง รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชาปัจจุบันกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครแล้ว คงเหลือแต่องค์จำลองไว้ จากศิลาจารึกปราสาทพระข...

ปราสาทบ้านไพล

รูปภาพ
ปราสาทบ้านไพล หรือ วัดโคกปราสาท ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาท  ต.เชื้อเพลิง  อ.ปราสาท  จ.สุรินทร์เป็นปราสาท 3 หลัง  สร้างด้วยอิฐขัดเรียบ  อยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกันเรียงจากเหนือไปใต้  ผังของปราสาทเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุม  ปัจจุบันปราสาทอยู่ในสภาพค่อนข้างดีอยู่ 2 หลัง คือ หลังที่อยู่ด้านทิศเหนือและหลังกลาง  โดยเฉพาะปราสาททิศเหนือยังคงมีทับหลังติดอยู่ในตำแหน่งเดิม  สลักภาพเทวดานั่งชันเข่าอยู่ในซุ้มเหนือหน้ากาลที่กำลังคายท่อนพวงมาลัย  มือทั้งสองข้างยึดท่อนพวงมาลัยไว้  และมีทับหลังอีก 2 ชิ้นวางอยู่ที่พื้น  สันนิษฐานว่าเป็นทับหลังของปราสาทหลังกลางและหลังทางทิศใต้  ชิ้นหนึ่งสลักภาพเทวดานั่งชันเข่าอยู่ในซุ้มเหนือหน้ากาลที่กำลังคายท่อนพวง มาลัย  มือทั้งสองข้างยึดท่อนพวงมาลัยไว้  อีกชิ้นหนึ่งสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ  โดยอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ปรากฏในเรื่องรามายณะ และความเชื่อของศาสนาฮินดู กล่าวถึงพระอินทร์มีร่างสีเขียว มีพาหนะเป็นช้าง 3 เชือก เชือกหนึ่งพระศิวะเป็นผู้ประทานให้ชื่อว่า เอราวัณ เชือกหนึ่งพระพรหม...

ปราสาทเมืองเก่า

รูปภาพ
ปราสาทเมืองเก่า ปราสาทเมืองเก่า ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทเมืองแขกประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในวัดปรางค์เมืองเก่า ต.โคราช อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา จุดสังเกตที่จะเห็ได้ชัดเจนคือบริเวณทางเข้าวัดจะสร้างเป็นรูปประตูเมืองเก่าของโคราชและอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ปราสาทเมืองเก่าสร้างขึ้นในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในระหว่างปี พ.ศ.1724 – 1763 เป็นโบราณสถานขนาดเล็กที่ก่อด้วยสิลาแลง หินทราย มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามแบบปราสาททั่วไป ปราสาทเมืองเก่าเรียกได้ว่าเป็นโบราณในศาสนาพุทธลัทธิมหายาน ประเภทอโรคยาศาล หรือโรงพยาบาลในปัจจุบัน ภายในปราสาทจะประกอบปด้วย ปรางค์ปรานรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง และมีบรรณาลัยอยู่ทางมุมขวามือด้านหน้า ล้อมรอบไปด้วยกำแพงแก้วซึ่งมีวุ้มประตูทางเข้าอยู่ด้านหน้า นอกกำแพงปราสาทนั้นจะมีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมที่กรุด้วยสิลาแลง แต่ในปัจจุบันนั้นปราสาทแห่งนี้เหลือเพียงเนินดินที่เป็นแนวยาวคล้ายกำแพง ทับหลังและโบราณวัตถุต่างๆ ภายในปราสาทได้ถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เพื่อรักษาให้คงไว้และให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป

ปราสาทนางรำ

รูปภาพ
    ปราสาทนางรำ     ปราสาทนางรำ  ตั้งอยู่ที่บ้านนางรำ ตำบลนางรำ ไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-ขอนแก่น) ประมาณ 62 กิโลเมตร จนถึงแยกบ้านวัด เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 207 ไปประมาณ 22 กิโลเมตรถึงบ้านหญ้าคา (หรือก่อนถึงตัวอำเภอประทาย 11 กิโลเมตร) จากนั้นเลี้ยวซ้ายทางเข้าวัดปราสาทนางรำอีก 4 กิโลเมตร ชื่อ ปราสาทนางรำ มาจากว่า เดิมเคยมีรูปนางรำ เป็นหินสีเขียวทำแบบเทวรูป อยู่ทางทิศตะวันตกของวิหารห่างไป 1.5 กิโลเมตร ปัจจุบันเหลือแต่ร่องรอยของเทวสถานและแท่นหิน ปราสาทนางรำเป็นโบราณสถานสมัยขอมที่เรียกว่าเป็น อโรคยาศาล (โรงพยาบาล) สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 18 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถาน 2 กลุ่มตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน กลุ่มปรางค์ที่สมบูรณ์กว่าหลังอื่นประกอบด้วยปรางค์องค์กลาง มีมุขยื่นออกไปข้างหน้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปราสาทมีวิหารก่อด้วยศิลาแลงหันหน้าไปทางทิศตะวันตก มีกำแพงศิลาแลงล้อมรอบ ส่วนซุ้มโคปุระหรือประตูทางเข้าอยู่ทางด้านทิศตะวันออก มีแผนผังเป็นรูปกากบาท นอกกำแพงด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือม...